เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการประชุมองค์กรภาคีโครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ ปีที่ ๗ ที่โรงแรมวินเซอร์ โดยมีคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ที่ปรึกษาโครงการก้าวย่างฯ ร่วมประชุมด้วย
อดีตเลขาฯ กพฐ. กล่าวถึงกรณีเรื่องเด็กท้องแล้วได้เรียนต่อว่า ผู้บริหารทุกคนรู้ว่ามีเด็กท้อง แต่ไม่รู้ว่าท้องแล้วไปไหน เพราะเด็กจะหายไปเลย ทั้งนี้ผู้ใหญ่มีส่วนทำให้เกิดสังคมที่ทำให้เด็กเสียรู้ และผู้ใหญ่ต้องมีส่วนรับผิดชอบ
“ดิฉันถามที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข บอกว่าการเอาเด็กออกจากโรงเรียนนั้นผิดรัฐธรรมนูญ เพราะเด็กจำนวนมากไม่ใช่เขาประพฤติไม่ดี แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น แล้วเด็กที่ออกกลางคันระหว่างเรียนมีไม่น้อย ถ้าผู้บริหารได้สัมผัสคำถามของเด็กในเรื่องเพศ หรือเจอเด็กท้อง ผู้บริหารจะตระหนักในปัญหา นี่คือสิ่งที่ทำและภูมิใจ อยากให้นโยบายเอาไปขยายผล” อดีตเลขาฯ กพฐ. กล่าว
คุณหญิงกษมา กล่าวอีกว่า เรื่องที่เด็กท้องแล้วให้เรียนต่อได้นั้น ในหลักการเป็นเรื่องที่ดี และเห็นด้วย แต่แปลกใจว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไม่ยอมออกมาพูดว่าทำแล้ว มันมีข้อวินิจฉัยของ ศธ. อยู่แล้ว แต่ไม่มีคนออกมาพูด ดังนั้นจึงต้องการให้การเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวของ ศธ.ว่าได้คุยกันแล้วกับกระทรวงสาธารณสุข และอยากให้สังคมรับรู้ว่า ศธ.ก็มีความห่วงใยในเรื่องนี้
ที่ปรึกษาโครงการฯ กล่าวว่า บางคนไม่เชื่อว่าเรื่องเพศมันมีปัญหาอยู่ และไม่เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งจะดีที่ชี้ให้เห็นปัญหา และเห็นว่ามันทำได้ คือ อย่างน้อยถ้ามีแรงสนับสนุนจะทำให้คนมีแรงทำงานต่อไป แต่ต้องหาผู้ใหญ่มาช่วยเล่นเรื่องนี้ ตามลักษณะระบบอุปถัมภ์ของสังคมไทย เช่น การให้ผู้อำนวยการได้รับเกียรติ ได้รับการยกย่อง จากการแก้ปัญหานี้
ขอขอบคุณข้อมูล และภาพประกอบจาก
วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553
You must log in to post a comment.