ศูนย์ข้อมูลสถิติสุขภาพแห่งชาติของอเมริกาเปิดเผยรายงานว่า การตั้งท้องในวัยรุ่นอเมริกันที่เคยสูงที่สุดในปี 2533 ลดลงถึง 38% ในปี 2547 สาเหตุเพราะบริการคุมกำเนิดในวัยรุ่นพัฒนาขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของสถาบัน Guttmacher ที่ศึกษาการตั้งท้องในวัยรุ่นระหว่างปี 2538- 2545 พบว่า 86% เป็นเพราะวัยรุ่นใช้วิธีคุมกำเนิดมากขึ้น และใช้อย่างถูกวิธี
ผลการศึกษาของรัฐบาลระบุว่ามีการใช้ถุงยางอนามัยมากขึ้น นักเรียนมัธยมปลายใช้ถุงยางอนามัยในเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดเพิ่มขึ้น โดยในปี 2534 มีการใช้ 46% และปี 2546 เพิ่มเป็น 63% แต่หลังจากปี 2546 – 2548 ตัวเลขนี้ก็ยังคงที่ ขณะนี้ มีความกังวลว่าในอนาคต สัดส่วนของวัยรุ่นอเมริกันที่ได้รับข้อมูลจากโรงเรียนเกี่ยวกับการคุมกำเนิดจะลดลงอย่างมาก โดยดูจากผลการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างปี 2538 กับ 2545 ของสถาบัน Guttmacher ที่พบว่าในปี 2545 วัยรุ่นชาย 66% และวัยรุ่นหญิง 70% ได้รับความรู้เรื่องการคุมกำเนิดในโรงเรียน ในขณะที่เมื่อปี 2538 ตัวเลขของวัยรุ่นชายและหญิงที่ได้รับความรู้สูงถึง 81% และ 87% ตามลำดับ
แม้ว่าการตั้งท้องในวัยรุ่นอเมริกันที่ลดลงในช่วงปี 2533-2547 จะทำให้การคลอดและการทำแท้งในวัยรุ่นลดต่ำลง แต่ศูนย์ควบคุมโรครายงานว่าปี 2549 การคลอดในวัยรุ่นเพิ่มสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ข้อมูลนี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการจัดการศึกษาเรื่องเพศที่รอบด้านและให้ข้อมูลการแพทย์ที่ถูกต้องแก่วัยรุ่น ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้วิธีคุมกำเนิดอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ ยิ่งกว่านั้นยังต้องมีการปรับปรุงให้วัยรุ่นเข้าถึงบริการอนามัยเจริญพันธุ์อีกด้วยเพื่อลดการตั้งท้องโดยไม่พร้อม ส่วนนโยบายจัดการศึกษาที่เน้นให้วัยรุ่นละเว้นการมีเพศสัมพันธ์ได้รับการประเมินแล้วว่าไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้รัฐต่างๆ จำนวน 17 รัฐพากันปฏิเสธไม่รับงบประมาณของรัฐบาลกลางมาจัดการศึกษาแบบนี้
แปลสรุปและเรียบเรียงจากรายงานข่าวประจำวันที่ 17 เมษายน 2551 ของสถาบัน Guttmacher (www.guttmacher.org)
You must log in to post a comment.