ข้อเสนอเชิงนโยบายฉบับที่สอง
จากการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การพัฒนาแนวทางการช่วยเหลือจัดบริการและคุ้มครองสิทธิของวัยรุ่นและผู้หญิงท้องไม่พร้อมที่ท้องต่อ” วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2562 เวลา 09.00 – 13.30 น. ณ ห้อง 501 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุภาพ (สสส.)
เพื่อใช้ขับเคลื่อนการพัฒนา
“แนวทางการบริการและคุ้มครองสิทธิ์ของวัยรุ่นและ
ผู้หญิงท้องไม่พร้อมที่ตั้งครรภ์ต่อ”
เสนอโดย เครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม 14 มีนาคม 2562
สาระสำคัญของประชุม
ข้อเสนอเชิงนโยบาย
(1) เร่งรัดให้มีการออกกฎกระทรวงและแนวปฎิบัติที่ชัดเจนเพื่อการคุ้มครองสิทธิของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม ตามพรบ. ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พศ.2559 ได้แก่ มาตรา 5 พรบ.ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ให้สิทธิกับวัยรุ่นในการตัดสินใจเกี่ยวข้องกับเรื่องอนามัยเจริญพันธุ์ พบว่ายังมีความย้อนแย้งกับกฎหมายคุ้มครองเด็กในเรื่องการให้อำนาจกับผู้ปกครองตัดสินใจแทนลูกที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ, กระทรวงศึกษาธิการได้ออกกฎกระทรวงกำหนดประเภทของสถานศึกษาและการดำเนินการของสถานศึกษาตามพรบ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น แต่ข้อ 7 วรรคหนึ่ง อนุญาตให้เด็กหยุดพักการศึกษาระหว่างตั้งครรภ์ การคลอด และหลังคลอดเพื่อดูแลบุตร ตามความเหมาะสม และจัดการเรียนการสอนให้เกิดความยืดหยุ่นตามศักยภาพต่อเนื่อง ว่ามีความเสี่ยงที่ทางสถานศึกษาจะนำข้อยกเว้นนี้มาใช้เป็นการให้พักการเรียนชั่วคราว, และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นควรเร่งรัดจัดทำคู่มือเกี่ยวกับมาตรฐานการป้องกันแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมสำหรับท้องถิ่น จะช่วยให้กลไกภายในขับเคลื่อนงานได้เป็นรูปธรรม และมีกฎหมายรองรับ
(2) วางยุทธศาตร์การทำงานด้านจัดสวัสดิการสังคมสำหรับผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อมและต้องท้องต่อและพัฒนาระบบการช่วยเหลือการคุ้มครองสิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์อย่างเป็นระบบ โดยมีแนวทางการขับเคลื่อนใน 3 ระดับ คือ หนึ่ง การทำงานในระดับพื้นที่ โดยพัฒนาระบบการดูแลโดยใช้พื้นที่เป็นฐานการทำงาน เช่น กลุ่มจังหวัด เพื่อพัฒนาระบบการฐานข้อมูล เท่าทันสถานการณ์ปัญหา สอง การเชื่อมต่อกลไกบริการจากภาคส่วนต่างๆ เพื่อจัดสวัสดิการสังคมและสุขภาพอย่างมีคุณภาพ โดยใช้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นตัวตั้ง เพื่อทำงานแบบบูรณาการให้มีความยืดหยุ่นไปตามพลังแรงของคนที่อยู่ในหน่วยงานและแต่ละสถานการณ์ เน้นทำงานด้วยหัวใจมากกว่าการทำตามหน้าที่ และ สาม การจัดบริการที่คำนึงความต้องการของผู้หญิงเป็นเป้าหมายหลัก ต้องมีการทำงานที่เฉพาะเจาะจงกับแม่วัยรุ่นหรือผู้หญิงที่ต้องท้องต่อและเด็กที่เกิดขึ้น และมองเห็นความซับซ้อนของกลุ่มต่าง ๆ เช่น แม่ที่ป่วยเป็นจิตเวช พิการ ใช้สารเสพติด ซึ่งมักไม่มีคนดูแลในชุมชน ซึ่งต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชนด้วย
(3) ต้องทบทวนสถานการณ์ที่ผู้หญิงและวัยรุ่นที่ท้องไม่พร้อมและท้องต่อไม่ไปฝากครรภ์ ในระบบสาธารณสุขกับสำนักงานหลักประกับสุขภาพแห่งชาติ เนื่องจากพบว่ากว่า 90% ผู้หญิงท้องไม่พร้อมไม่มาฝากท้องหรือมาฝากท้องเมื่อใกล้คลอด และอายุของวัยรุ่นที่ท้องต่อที่เข้ามามีอายุลดลง มีปัญหาการใช้สารเสพติดในขณะที่ท้องในจำนวนที่สูงขึ้น ส่งผลต่อการประเมินศักยภาพและความพร้อมในการท้องต่อ
(4) ผลักดันให้เกิดระบบสวัสดิการคุ้มครองด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเมื่อผู้หญิงท้องไม่พร้อมต้องเป็นผู้ต้องคดีว่าเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการ เพื่อทำให้ผู้หญิงเข้าถึงกระบวนการให้คำปรึกษาและการช่วยเหลือทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมในการต่อสู้คดี
You must be logged in to post a comment.